แชร์

แนะนำการเลือกใบเลื่อยสายพานตัดเหล็ก ให้เหมาะสมกับการงาน

อัพเดทล่าสุด: 24 ธ.ค. 2024
124 ผู้เข้าชม
ใบเลื่อยสายพานตัดเหล็ก Wespa เครื่องมือสำคัญในงานตัดโลหะที่ต้องการความแม่นยำและความทนทาน
การเลือกฟันเลื่อยที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การตัดงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือแนวทางในการเลือกฟันเลื่อยสายพานที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของคุณ
 
1. ประเภทของฟันเลื่อย ฟันเลื่อยสายพานสำหรับตัดเหล็กมีหลายประเภท โดยแต่ละแบบเหมาะสมกับงานที่แตกต่างกัน
  • ฟันเลื่อยแบบ Standard Tooth : เหมาะสำหรับการตัดวัสดุทั่วไป เช่น เหล็กกล้าคาร์บอน หรือเหล็กกล้าผสมต่ำ มีรูปทรงฟันที่เรียบง่าย และเหมาะสำหรับการตัดที่ไม่ซับซ้อน
  • ฟันเลื่อยแบบ Hook Tooth : มีมุมฟันที่ชัน เหมาะสำหรับการตัดวัสดุที่มีความหนา เช่น เหล็กหล่อ หรือวัสดุที่ต้องการความเร็วในการตัดสูง
  • ฟันเลื่อยแบบ Skip Tooth : มีระยะห่างระหว่างฟันที่กว้าง เหมาะสำหรับวัสดุที่อ่อนหรือเป็นชิ้นงานที่ต้องการการตัดโดยไม่อุดตัน เช่น อะลูมิเนียมหรือทองแดง

 

2. จำนวนฟัน ต่อความยาว (TPI)  (Teeth Per Inch) คือจำนวนฟันเลื่อยในระยะ 1 นิ้ว ซึ่งมีผลต่อความละเอียดของการตัด
  • TPI ต่ำ (6-10 ฟัน)  เหมาะสำหรับการตัดวัสดุหนา เช่น ท่อเหล็กหนาหรือเหล็กแผ่นหนา
  • TPI ปานกลาง (10-18 ฟัน)   ใช้ได้กับวัสดุที่มีความหนาปานกลาง เช่น เหล็กแผ่นบาง หรือท่อเหล็กขนาดเล็ก
  • TPI สูง (18-32 ฟัน)  เหมาะสำหรับวัสดุบาง เช่น แผ่นโลหะบาง หรือวัสดุที่ต้องการความเรียบร้อยสูง 
3. ชนิดของวัสดุที่ใช้ตัด การเลือกฟันเลื่อยควรคำนึงถึงชนิดของวัสดุที่ต้องการตัด ดังนี้
  • เหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าผสมต่ำ: ใช้ใบเลื่อยที่มีฟันเลื่อยแบบ Standard Tooth และ TPI ปานกลาง
  • เหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless Steel): ควรเลือกใบเลื่อยที่มีความแข็งแรงสูงและ TPI สูงเพื่อการตัดที่เรียบเนียน
  • วัสดุที่มีความหนาแน่นต่ำ (Non-Ferrous Metals): เช่น อะลูมิเนียมและทองแดง ควรใช้ฟันเลื่อยแบบ Skip Tooth และ TPI ต่ำ
4. ความเร็วและแรงดันในการตัดนอกจากการเลือกฟันเลื่อยแล้ว การตั้งค่าความเร็วและแรงดันในการตัดก็สำคัญ 
  • ความเร็วต่ำ: เหมาะสำหรับวัสดุที่แข็งมาก เช่น เหล็กกล้าไร้สนิม
  • ความเร็วสูง: ใช้กับวัสดุที่อ่อนกว่า เช่น อะลูมิเนียม
**การปรับแรงดันที่เหมาะสมช่วยลดความเสียหายต่อฟันเลื่อยและยืดอายุการใช้งาน
 
5. การดูแลรักษาใบเลื่อยสายพาน เพื่อให้ใบเลื่อยมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ควรดูแลรักษาอย่างเหมาะสม:
  • ทำความสะอาดฟันเลื่อยหลังใช้งานเพื่อลดการสะสมของเศษวัสดุ
  • ตรวจสอบความตึงของใบเลื่อยอยู่เสมอ
  • หลีกเลี่ยงการตัดวัสดุที่เกินความสามารถของฟันเลื่อย
      การเลือกฟันเลื่อยสายพานสำหรับตัดเหล็กที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุ ความหนา และความละเอียดที่ต้องการ การเลือกอย่างถูกต้องไม่เพียงช่วยให้การตัดงานเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ยังช่วยลดต้นทุนและยืดอายุการใช้งานของใบเลื่อยอีกด้วย หากคุณให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ คุณจะสามารถใช้งานใบเลื่อยสายพานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

 

บทความที่เกี่ยวข้อง
การใช้งานใบเลื่อยตัดไม้อย่างปลอดภัย ข้อควรระวังที่คุณต้องรู้
ปัจจัยสำคัญที่ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการทำงาน แต่ยังช่วยรักษาประสิทธิภาพและความแม่นยำของการตัดไม้ให้อยู่ในระดับสูงสุด
25 ธ.ค. 2024
การเลือกฟันเลื่อยให้เหมาะสม กับเหล็กแต่ละประเภท
เลือกฟันเลื่อยสายพานที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การตัดเหล็กมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดปัญหาการสึกหรอ และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
27 ธ.ค. 2024
ใบเลื่อยสายพาน เกรด Bi-metal ใช้ตัดวัสดุอะไรบ้าง
เกรด Bi-metal เป็นใบเลื่อยชนิดหนึ่งที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานตัดวัสดุหลากหลายประเภท โดยเฉพาะโลหะต่าง ๆ เช่น เหล็ก สเตนเลส อลูมิเนียม และโลหะผสม
3 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy